ทำไมถึงต้องใช้ตัวเรือนทอง 18K

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยซื้องานจิวเวลรี่เป็นประจำ ย่อมทราบดีว่า ในสมัยก่อนเรามักคุ้นเคยกับงานจิวเวลรี่ทอง 90% ซึ่งถ้าเปรียบเทียบแล้วก็คือ 21.6K หรือ 22K (K คือหน่วยกะรัตที่ใช้บอกเปอร์เซนต์ทอง โดยที่ทอง 99.99% นั่นก็คือทอง 24K)

ความนิยมของทอง 90% มาจากไหน

ตัวเรือนทำมาจากทอง 90% หรือไม่?

คุณรู้ไหมว่าทอง 75% (18K) เป็นทองที่ดีสุดสำหรับงานจิวเวลรี่ และเคยสงสัยไหมทำไมจึงไม่ใช่ทอง 90% (22K)?

gold 90%

ความนิยมของทอง 90% มาจากไหน?

ความนิยมของทอง 90% เริ่มต้นขึ้นจากพฤติกรรมการออมของคนไทยที่เรามักนิยมออมทองกัน เพราะด้วยความเชื่อที่ว่า "แหวนหนึ่งวงที่แม้จะมีการสึกหรอจากการใช้งานก็ตาม" แต่เมื่อมีทองแท้ ที่ตัวมันช่วยเพิ่มมูลค่ามากขึ้นตามเวลาอยู่แล้วนั้น การเลือกสะสมงานจิวเวลรี่ทองเปอร์เซนต์สูงๆ จึงเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง

แต่คุณรู้ไหมว่า ยิ่งเปอร์เซนต์ทองที่สูง ก็ยิ่งทำให้ทองมีความอ่อนตัวมากขึ้น (ลองนึกถึง แหวนทองเยาวราชที่ครั้งหนึ่งคุณเคยซื้อมาใส่ และถ้าได้ลองใส่กันประจำ คุณจำได้ไหมว่า สุดท้ายแหวนทองวงนั้น ก็มักจะบูดๆเบี้ยวๆตามนิ้วมือผู้สวมใส่ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเปอร์เซนต์ทองที่สูงถึง 96.5%นั่นเอง)

ตัวเรือนทำมาจากทอง 90% หรือไม่?

ทีนี้งานจิวเวลรี่ทอง 90% ที่มีเพชรพลอยประกอบอยู่ด้วย ก็ย่อมเจอผลกระทบแบบนี้เช่นกัน ถึงแม้ % ทองจะต่ำกว่าทองเยาวราช แต่ความอ่อนตัวของตัวเรือนยังคงมีอยู่เช่นกัน ซึ่งเพชร พลอย เราทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าหลายๆ ชนิด ก็มีมูลค่าสูงกว่าทองด้วยซ้ำ หากมีโอกาสหลุดออกจากตัวเรือนได้ง่าย เราคงเสียดายและเสียใจไปอีกนาน

เมื่อเป็นเช่นนี้ งานจิวเวลรี่ทองจึงได้มีการพัฒนารูปแบบด้วยการลดเปอร์เซนต์ทองให้ต่ำลง เพื่อทองจะได้มีความแข็งเพิ่มขึ้น และมีมากพอที่จะเกาะเพชรพลอยได้แข็งแรง จนสุดท้าย... ได้มีผู้พิสูจน์พบว่า ทอง 75% (หรือที่เรารู้จักกันดีว่า ทอง 18K) เป็นทองที่มีความแข็งแรง และเหมาะสมสำหรับงานจิวเวลรี่ที่สุด รวมทั้งยังรักษามูลค่าการออมให้คุณได้เหมือนเดิม ในต่างประเทศเองก็เช่นกัน งานจิวเวลรี่ทอง18K ก็ได้รับความนิยม และเป็นงานประเภทเดียวที่ถูกจัดหมวดหมู่ อยู่ในกลุ่มงานประเภท High End Jewellery และใช้บ่งบอกถึงความเป็น Luxury Jewelry มายาวนาน